BIC Insight: วิ่งให้บริการแล้ว!!! รถไฟความเร็วสูงประชิดเวียดนาม เส้นที่ 2 ของกว่างซี
เวลาที่โพสต์:18:08, 16-12-2025
แหล่งข่าว:thaibizchina.com

กล่าวได้ว่า “ขนส่งระบบราง” เป็นหนึ่งในไพ่ใบสำคัญของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงใช้สร้าง “ความเชื่อมโยง” (Connectivity) กับอาเซียน ตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลกลางที่กำหนดยุทธศาสตร์ให้กว่างซีเป็น Gateway to ASEAN เพื่อใช้กว่างซีเป็นโซ่คล้องสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอาเซียนอย่างรอบด้าน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2568 เขตฯ กว่างซีจ้วง ได้เปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูง ช่วงเส้นทางส่วนต่อขยาย “เมืองฉงจั่ว – เมืองระดับอำเภอผิงเสียง” อย่างเป็นทางการแล้ว ระยะทาง 81.52 กิโลเมตร รถไฟวิ่งด้วยความเร็ว 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงแรกให้บริการไป-กลับทุกวันวันละ 4 เที่ยว การเดินทางระหว่างนครหนานหนิง-เมืองฯ ผิงเสียงใช้เวลาเร็วสุดเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที (รถยนต์ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมง) มีทั้งหมด 4 สถานี ได้แก่ สถานีฉงจั่วหนาน สถานีหนิงหมิงตง สถานีหลงโจว และสถานีผิงเสียงตง ทำให้ปัจจุบัน เขตฯ กว่างซีจ้วงมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่วิ่งไปถึงเมืองชายแดนติดประเทศเวียดนาม 2 เส้นทาง

  • เส้นทางแรก “นครหนานหนิง – เมืองฝางเฉิงก่าง – เมืองระดับอำเภอตงซิง” ใกล้ชายแดนเมืองม่องก๋าย (Mong Cai) จังหวัดกว๋างนิญ (Quảng Ninh) ของเวียดนาม เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2566 ใช้เวลาเดินทางเร็วสุดเพียง 1 ชั่วโมง 13 นาที (รถยนต์ ระยะทาง 181 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่ง)

  • เส้นทางที่ 2 “นครหนานหนิง – เมืองฉงจั่ว – เมืองระดับอำเภอผิงเสียง” ห่างจากด่านโหย่วอี้กวาน 21 กิโลเมตร ใกล้พรมแดนจังหวัดลางเซิน (Lang Son) ของเวียดนาม เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2568 ใช้เวลาเดินทางเร็วสุดเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาที (รถยนต์ ระยะทาง 204 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่ง / รถไฟธรรมดา 4 ชั่วโมง)

ตามรายงาน ช่วงส่วนต่อขยาย “เมืองฉงจั่ว – เมืองระดับอำเภอผิงเสียง” ที่เพิ่งเปิดให้บริการนี้ มีระยะทาง 81.52 กิโลเมตร การก่อสร้างมีความยากลำบาก เนื่องจากสภาพภูมิประเทศแบบคาสต์ (karst topography) ที่เกิดจากการกัดกร่อนหินปูนของน้ำใต้ดินเป็นโพรงหิน มีพื้นที่ลาดชันสลับกับพื้นที่ราบ ต้องขุดเจาะอุโมงค์ 22 แห่ง คิดเป็นระยะทาง 26 กิโลเมตร ต้องสร้างสะพานมากถึง 55 แห่ง คิดเป็นระยะทางสะพาน 43.77 กิโลเมตร (เสาสะพานความสูง 64 เมตร) ต้องสร้างคานสะพานรูปกล่อง (Box Girder) มากถึง 1,254 ชิ้น โดยแต่ละชิ้นมีความยาว 24 เมตร น้ำหนัก 570 ตัน อีกทั้ง ยังต้องสร้างทางรถไฟค่อมเส้นทางรถไฟสายอื่น

บีไอซี ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงที่กว่างซีสร้างไปยังเมืองชายแดน (ใกล้เวียดนาม) 2 เส้นทางดังกล่าว ได้รับการออกแบบไว้สำหรับการเชื่อมเส้นทางรถไฟกับประเทศเวียดนามในอนาคต ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นสองฝ่ายพยายามเร่งผลักดันการพัฒนาโครงการเชื่อมเส้นทางรถไฟความเร็วสูงผ่านกลไกการประชุมคณะทำงานร่วม (Joint Working Committee) ระหว่างรัฐบาลกว่างซีกับ 4 จังหวัดชายแดนเวียดนาม (จังหวัดฮาซาง Hà Giang / จังหวัดกว๋างนิญ Quảng Ninh / จังหวัดลางเซิน Lạng Sơn / จังหวัดกาวบั่ง Cao Bằng) อยู่อย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะการผลักดันโครงการก่อสร้างทางรถไฟความเร็วสูงเส้นทางใหม่เชื่อมจีน(กว่างซี)-เวียดนาม โดยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 ในการประชุม Joint Working Committee ระหว่างรัฐบาลกว่างซีกับ 4 จังหวัดชายแดนเวียดนาม ได้หารือเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการเชื่อมเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเมืองระดับอำเภอตงซิงกับเมืองม่องก๋าย จังหวัดกว๋างนิญ และโครงการพัฒนารางรถไฟขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตรในเวียดนาม (จากจีน(กว่างซี) – สถานีด่งดัง เป็นรางผสม 1.435 เมตร / สถานีด่งดัง จ.ลางเซิน – สถานี Yên Viên ในกรุงฮานอย เป็นราง 1 เมตร) โดยเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2567 ในการประชุมคณะกรรมการชี้แนะความร่วมมือทวิภาคีจีน-เวียดนาม ครั้งที่ 6 ที่จัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง รัฐบาลสองประเทศได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในการก่อสร้างทางรถไฟมาตรฐาน 3 เส้นทาง (ลาวก่าย – ฮานอย – ฮาลอง / ลางเซิน – ฮานอย / ม่องก๋าย – ฮาลอง – ไฮฟอง) โดยข้อตกลงดังกล่าวเป็นการสานต่อการดำเนินงานเชิงลึกตามเอกสารรายงานความร่วมมือในการศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างทางรถไฟแบบมาตรฐานข้ามพรมแดนที่รัฐบาลจีนและเวียดนามได้ร่วมลงนามในระหว่างการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีโต เลิมของเวียดนามเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2567

บีไอซี ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน บทบาทของรถไฟความเร็วสูงในประเทศจีนไม่ได้จำกัดที่การเดินทางของผู้โดยสารเท่านั้น หลายเมืองในจีนได้พัฒนารูปแบบการให้บริการของรถไฟความเร็วสูงไปถึงการขนส่งสินค้าและพัสดุไปรษณีย์แล้ว นับตั้งแต่เส้นทางแรกนครอู่ฮั่น – กรุงปักกิ่งในเดือนพฤศจิกายน 2563 อีกทั้ง นครหนานหนิงได้สร้าง “ฐานโลจิสติกส์ด้วยรถไฟความเร็วสูงหนานหนิง” ในปี 2564 เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับการขนส่งและกระจายสินค้าไปยังหัวเมืองต่าง ๆ ทั่วจีนในอนาคต

แนวโน้มการขนส่งและกระจายสินค้าด้วยรถไฟความเร็วสูงในประเทศจีนจึงเป็นประเด็นที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในมิติของการขนส่งสินค้าด้วยรถไฟความเร็วสูงในระบบการค้าระหว่างประเทศ ที่จะทำให้ผู้ค้าเข้าถึงตลาดในพื้นที่ใหม่ ๆ ได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำ และช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกอบการไทยในการใช้ประโยชน์จากเส้นทางรถไฟดังกล่าวในการขนส่งและกระจายสินค้าไทยไปทั่วประเทศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในอนาคต หากเส้นทางรถไฟความเร็วสูงถึงเมืองชายแดนกว่างซี 2 เส้นทางข้างต้น มีแผนจะเริ่มให้บริการขนส่งสินค้า บีไอซีหนานหนิงจะติดตามข้อมูลข่าวสารมาอัปเดตให้ทราบในโอกาสแรก


ข่าวนี้รวบรวมโดย :SHUNNING HUANG