เขตพัฒนาความร่วมมือกวางตุ้ง – มาเก๊า (Guangdong – Macao In-Depth Cooperation Zone): ประตูแห่งโอกาสสำหรับธุรกิจไทย
เวลาที่โพสต์:17:22, 17-06-2025
แหล่งข่าว:thaibizchina.com

เขตพัฒนาความร่วมมือระหว่างมณฑลกวางตุ้งและเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ในเขตเหิงฉิน เมืองจูไห่ (Guangdong – Macao In-Depth Cooperation Zone) ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของเมืองจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ติดกับมาเก๊า ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 106 ตารางกิโลเมตร ก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกันยายน 2564 และอยู่ภายใต้การบริหารจัดการร่วมกันของมณฑลกวางตุ้งและเขตบริหารพิเศษมาเก๊า

เขตพัฒนาความร่วมมือกวางตุ้ง – มาเก๊าในเขตเหิงฉิน เมืองจูไห่
ที่มา: The Hong Kong Trade Development Council

เขตพัฒนาความร่วมมือกวางตุ้ง – มาเก๊ามุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมสำคัญสี่ประเภทหลัก ได้แก่ (1) การผลิตยาแผนจีนและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ (2) การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การจัดการประชุมและนิทรรศการ (ธุรกิจไมซ์ – MICE) (3) การวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (4) การให้บริการด้านการเงินการธนาคารซึ่งใช้นวัตกรรม โดยอุตสาหกรรมเหล่านี้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลมาเก๊าที่ให้ความสำคัญกับการทำให้เศรษฐกิจมีความหลากหลาย และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของมาเก๊า นอกเหนือจากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมกาสิโน

ย่านธุรกิจในเขตเหิงฉิน เมืองจูไห่
ที่มา: สำนักข่าว Zhuhai News

ในห้วงปี 2564 – 2567 ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ของเขตเหิงฉินเพิ่มขึ้นจาก 4.5 หมื่นล้านหยวนเป็น 5.38 หมื่นล้านหยวน คิดเป็นอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยประมาณร้อยละ 5 ต่อปี โดยเมื่อปี 2566 เขตเหิงฉินสามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 71.8 คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5.8 พันล้านหยวน
และในห้วงปี 2564 – 2567 มูลค่าการค้าในเขตเหิงฉินเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 186.8


โอกาสและความท้าทายสำหรับธุรกิจไทย

โอกาสสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจของไทยในเขตเหิงฉินคือมาตรการทางภาษี โดยอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของจีนอยู่ที่ร้อยละ 25 ในขณะที่อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในเขตเหิงฉินได้รับการลดหย่อนเหลือเพียงร้อยละ 15 ทำให้บริษัทที่ดำเนินงานในเขตเหิงฉินสามารถทำกำไรได้มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังมีมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลซึ่งจะช่วยดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูงได้ง่ายขึ้น โดยบริษัทของไทยอาจพิจารณาร่วมลงทุนหรือจัดตั้งกิจการร่วมค้ากับบริษัทในจีนเพื่อใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบด้านภาษี รวมทั้งใช้ประโยชน์จากความรู้
และทรัพยากรของบริษัทท้องถิ่นในการเข้าถึงตลาดและสื่อสังคมออนไลน์ยอดนิยมของจีนอย่างเสี่ยวหงชู (Xiaohongshu – 小红书) เพื่อสร้างกระแสความนิยมที่จะสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายสินค้าและบริการ นอกจากนี้ เขตเหิงฉินยังตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ในเขต Greater Bay Area ทำให้การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า
และนิทรรศการ สามารถทำได้โดยสะดวก

ตารางเปรียบเทียบมาตรการลดหย่อนภาษีของเขตเหิงฉินกับเขตเศรษฐกิจพิเศษอื่น ๆ ของจีน
ที่มา: สำนักข่าว China Briefing

บริษัทในเขตเหิงฉินยังสามารถใช้ประโยชน์จากมาตรการการอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรของจีน โดยสินค้าที่ผลิตในเขตเหิงฉินที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 จะได้รับการยกเว้นภาษีอากรสำหรับการนำเข้าจีน
และบริษัทในเขตเหิงฉินที่ประสงค์จะส่งออกสินค้าจากสนามบินมาเก๊าและท่าเรือเหิงฉินจะสามารถยื่นขอรับ
ค่าขนส่งคืนร้อยละ 10 – 12 ต่อปี (สูงสุดไม่เกิน 10 – 12 ล้านหยวนต่อปี) นอกจากนี้ เขตเหิงฉินยังมีกลไกอำนวยความสะดวกอื่น ๆ อาทิ ระบบโลจิสติกส์ที่รวดเร็ว ระบบคลังสินค้าที่ทันสมัย และศูนย์อำนวยความสะดวกด้าน
E-Commerce ครบวงจร อีกทั้งเขตเหิงฉินยังอยู่ใกล้กับเมืองในเขต Greater Bay Area ซึ่งมีกำลังซื้อสูงและเป็นเมืองท่าสำคัญ อาทิ นครกว่างโจว เมืองเซินเจิ้น เขตบริหารพิเศษมาเก๊าและฮ่องกง

แผนที่เขต Greater Bay Area
ที่มา: สำนักข่าว China Briefing

อย่างไรก็ดี ความท้าทายสำคัญของธุรกิจไทยในเขตเหิงฉินได้แก่ ระบบกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ที่มีการกำกับดูแลร่วมกันโดยมณฑลกวางตุ้งและเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ทำให้มีความซับซ้อนและยังมีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพแวดล้อมของธุรกิจโดยรวมได้ และการที่เขตเหิงฉินยังไม่มีท่าเรือน้ำลึก
และท่าเรือน้ำลึกที่ใกล้ที่สุดยังต้องอาศัยเมืองท่าอื่น ๆ ในเขต Greater Bay Area นอกจากนี้ เขตเหิงฉินยังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานเช่นเดียวกันกับมาเก๊าและฮ่องกง ทำให้ภาคเอกชนจำนวนมากพัฒนาระบบอัตโนมัติมาทำงานแทนแรงงานมนุษย์ ดังนั้น ธุรกิจไทยที่ต้องการมาลงทุนในเขตเหิงฉินจึงจำเป็นต้องมีความสามารถ
ในการปรับตัว และการนำเอาเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ในกระบวนการวิจัย การผลิต โลจิสติกส์
และการบริหารจัดการองค์กร

แผนที่แสดงตำแหน่งของท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ และท่าเรือสำคัญในเขต Greater Bay Area
ที่มา: สำนักข่าว China Briefing

ข่าวนี้รวบรวมโดย :SHUNNING HUANG