“จีน” เป็นประเทศที่มีการนำเข้าและบริโภค “ทุเรียน” มากที่สุดในโลก หลังจากที่จีนทยอยเปิดตลาด “ทุเรียนสด” ให้ชาติสมาชิกอาเซียนเข้ามาเป็น ‘ผู้เล่น’ ในตลาดจีนเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม (27 ก.ค. 2565 ทุเรียนสด / 19 ส.ค. 2567 ทุเรียนแช่แข็ง) ฟิลิปปินส์ (4 ม.ค. 2566 ทุเรียนสด) มาเลเซีย (24 มิ.ย. 2567 ทุเรียนสด) และล่าสุด กัมพูชา (17 เม.ย. 2568) ยังไม่นับรวมอินโดนีเซีย และ สปป.ลาว ที่กำลังเร่งเจรจาให้ทุเรียนของตนเองสามารถส่งออกไปจีนได้
กล่าวได้ว่า สถานการณ์การแข่งขันของ “ทุเรียน” ในตลาดจีนทวีความดุเดือดมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านรสชาติ คุณภาพ ราคา รวมถึงช่องทางการขนส่งทุเรียนให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างสดใหม่
เมื่อเร็ว ๆ นี้ (6 พ.ค. 2568) “ท่าเรือชินโจว” ในอ่าวเป่ยปู้ (อ่าวตังเกี๋ย) ได้เปิดด่านต้อนรับการมาถึงของ “ทุเรียนสด” ล็อตแรกในปีนี้ เป็นสัญญาณเริ่มต้นการเข้าสู่ ‘ฤดูทุเรียน’ แล้ว โดยทุเรียนสดล็อตดังกล่าวเป็น “ทุเรียนไทย” น้ำหนักรวม 20 ตัน
ปี 2567 การนำเข้าผลไม้ผ่าน “ด่านท่าเรือชินโจว” มีปริมาณ 25,000 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
——— ข้อมูลจากศุลกากรชินโจว
ตามรายงานของเขตทดลองการค้าเสรีจีน (กว่างซี) ระบุว่า หลังจากทุเรียนล็อตดังกล่าวได้ผ่านพิธีการศุลกากรนำเข้าเป็นที่เรียบร้อย จะกระจายต่อไปยังพื้นที่อื่นในประเทศจีนผ่าน “ศูนย์ซื้อขายผลไม้จีน(ชินโจว)-อาเซียน” ในเมืองชินโจว
คุณเฉิน เจวียนเจวียน (陈娟娟/Chen Juanjuan) ผู้จัดการบริษัทประกอบการขนส่ง Guangxi Zhengfan International Logistic Co., Ltd. (广西正帆国际物流有限公司) เปิดเผยว่า ช่วงใกล้ ๆ นี้ คาดว่าจะมีทุเรียนล็อตใหญ่ทยอยเข้าด่านท่าเรือชินโจว การอำนวยความสะดวกด้านการผ่านพิธีการศุลกากรที่มีประสิทธิภาพสูง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการในการนำเข้าทุเรียนล็อตใหญ่ที่จะทยอยถึงด่านท่าเรือชินโจวต่อจากนี้
นโยบายการอำนวยความสะดวกของศุลกากร อาทิ การยื่นสำแดงเอกสารล่วงหน้า การนัดหมายล่วงหน้าเพื่อขอรับบริการตรวจปล่อยสินค้า และคำมั่นการให้บริการผ่านพิธีการศุลกากร 027 คือ ผลไม้ที่ไม่ถูกสุ่มตรวจให้ตรวจปล่อยทันที สินค้าที่ถูกสุ่มตรวจไม่พบความผิดปกติให้ตรวจปล่อยภายใน 2 ชั่วโมง และผลไม้ที่ต้องรมยาเพื่อกำจัดศัตรูพืชให้ตรวจปล่อยภายใน 7 ชั่วโมง
คุณฟ่าน ฮุ่ย (范慧/Fan Hui) หัวหน้ากลุ่มงานตรวจสอบ 5 ศุลกากรประจำท่าเรือชินโจว กล่าวว่า หน่วยงานศุลกากรได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ในกรณีที่มีผลไม้ล็อตใหญ่มาถึงท่าเรือ โดยศุลกากรได้ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในการประชาสัมพันธ์แนวทาง/ข้อเสนอแนะให้ผู้ประกอบการนำเข้าได้ทราบเกี่ยวกับมาตรการอำนวยความสะดวกทางศุลกากร เช่น การนัดหมายและการสำแดงเอกสารล่วงหน้า ข้อกำหนดและมาตรการควบคุมตรวจสอบทุเรียนนำเข้า
นอกจากนี้ หน่วยงานศุลกากรยังได้เปิด “ช่องทางสีเขียว” สำหรับผลไม้นำเข้า ประสานงานกับห้องปฏิบัติการ อย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างหลักประกันให้ผลไม้นำเข้า “ถึงปุ๊บตรวจปั๊บ ผลตรวจออกปุ๊บ ตรวจปล่อยปั๊บ” และการจัดให้เจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการทำงานล่วงเวลา เพื่อสร้างหลักประกันให้แก่ทุเรียนนำเข้าสามารถตรวจปล่อยได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ โดยแต่ละขั้นตอนสามารถดำเนินการแบบไร้รอยต่อ ตั้งแต่การสุ่มและนำส่งตัวอย่าง การเตรียมตัวอย่าง การตรวจวิเคราะห์ตัวอย่าง และการออกใบรับรองผลการตรวจ
ตามรายงาน ห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ของด่านท่าเรือชินโจวได้รับการรับรอง CMA (China Inspection Body and Laboratory Mandatory Approval) และ CNSA (China National Accreditation Service for Conformity Assessment) ในการขยายการให้บริการตรวจวิเคราะห์ได้เพิ่มขึ้น 214 รายการ ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการในการตรวจวิเคราะห์ผลไม้และอาหารนำเข้าของด่านต่าง ๆ ในอ่าวเป่ยปู้ที่กว่างซีได้อย่างเพียงพอ
ปัจจุบัน การขนส่งสินค้าทางเรือระหว่าง “ท่าเรือแหลมฉบัง – ท่าเรือชินโจว” มีเที่ยวเรือประจำหลายเที่ยวต่อสัปดาห์ รวมถึงเที่ยวเรือ Express Route สำหรับผลไม้สด บีไอซี เห็นว่า ผู้ส่งออกไทยสามารถพิจารณาเลือกใช้ “ท่าเรือชินโจว” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการส่งออกผลไม้ (ทุเรียน) ไทยไปจีน โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลผลไม้ที่ผลผลิตออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก เพื่อกระจายความเสี่ยงด้านการขนส่ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความแออัดและเกิดปัญหารถบรรทุกติดค้างบริเวณด่านทางบกทั้งในเขตฯ กว่างซีจ้วงและในมณฑลยูนนาน รวมถึงหลีกเลี่ยงการกระจุกตัวของสินค้าผลไม้ที่ท่าเรือดั้งเดิมในมณฑลกวางตุ้ง (ทั้งท่าเรือกว่างโจว ท่าเรือเซินเจิ้น) ซึ่งอาจต้องรอคิวในการเคลียร์สินค้าเป็นเวลานาน
ผู้ส่งออกไทยยังสามารถใช้ประโยชน์จาก “ท่าเรือชินโจว+ศูนย์ซื้อขายผลไม้จีน(ชินโจว)-อาเซียน” เป็นจุดกระจายสินค้าไทยไปเจาะตลาดจีน โดยเฉพาะนครฉงชิ่ง มณฑลเสฉวน มณฑลหูหนาน ซึ่งเป็นตลาดบริโภคแห่งใหม่ที่มีศักยภาพสูงของจีน โดยใช้ประโยชน์จากโมเดลการขนส่ง “เรือ+ราง” ที่สามารถขนถ่ายตู้สินค้าได้แบบไร้รอยต่อภายในบริเวณท่าเรือชินโจว เพื่อลำเลียงตู้สินค้าไปยังพื้นที่อื่นทั่วประเทศจีน
ทั้งนี้ ระบบงานขนส่ง “เรือ+ราง” มีความปลอดภัย คล่องตัว และตรงเวลา ประหยัดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ที่สำคัญ คือ สามารถรองรับตู้คอนเทนเนอร์ได้หลากหลายประเภท นอกจากตู้คอนเทนเนอร์ทั่วไป ตู้คอนเทนเนอร์แบบที่มีเครื่องทำความเย็น (Reefer) สำหรับการขนส่งผลไม้และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแช่แข็ง ยังรวมถึงตู้คอนเทนเนอร์แบบ Open Top ซึ่งเหมาะสำหรับสินค้าเทกองได้ด้วย
รู้หรือไม่… ท่าเรือชินโจว ยังเป็น “พื้นที่แห่งโอกาส” ในการพัฒนาการค้า “เนื้อทุเรียน(ไทย)” ในรูปแบบการค้าชายแดน ซึ่งนับเป็นการค้ารูปแบบใหม่ที่ ‘ฉีกกรอบ’ คำนิยามของการค้าชายแดน ซึ่งจะต้องเป็นการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน แต่การนำเข้าในรูปแบบดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อการแปรรูปในพื้นที่ชายแดน ถือเป็นการพัฒนาช่องทางการค้าและการขนส่งระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ระหว่างจีน (กว่างซี) กับต่างประเทศ นอกจากจะช่วยภาคธุรกิจลดต้นทุนด้านการนำเข้า (การค้าในรูปแบบการค้าชายแดน ผู้นำเข้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี) ยังช่วยเอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูปบริเวณชายแดน
เมื่อช่วงปลายปี 2567 บริษัท Guangxi Zhongguo Industrial Co.,Ltd. (广西中果实业有限公司) ได้นำเข้า “เนื้อทุเรียนไทย” ผ่านทางทะเลในรูปแบบการค้าชายแดนจากท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อมุ่งหน้าไปยังท่าเรือชินโจว (เมืองชินโจว เขตฯ กว่างซีจ้วง) โดยใช้เวลาขนส่งเพียง 4 วัน ก่อนจะเคลื่อนย้ายด้วยรถบรรทุกเพื่อไปดำเนินพิธีการศุลกากรที่ด่านการค้าชายแดนผู่จ้าย (เมืองผิงเสียง เขตฯ กว่างซีจ้วง) และส่งไปแปรรูปในโรงงานแปรรูปของบริษัทฯ ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมผิงเสียง (ชายแดนกว่างซี-เวียดนาม) โดยหน่วยงานศุลกากรได้อำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ ช่วยให้สินค้าสามารถส่งถึงโรงงานอย่างรวดเร็ว เป็นทางเลือกที่ช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาสินค้าตกค้างบริเวณด่านในเมืองผิงเสียงได้เป็นอย่างดี
บีไอซี เห็นว่า โมเดลการค้าใหม่ดังกล่าวช่วยสร้าง ‘โอกาสทอง’ ทางการค้าให้แก่สินค้าเกษตรไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลไม้และเนื้อผลไม้ อาทิ ทุเรียน มะม่วง เสาวรส ขนุน ซึ่งตลาดจีนมีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเป็นขนมขบเคี้ยว หรือการแปรรูปขั้นต้นเพื่อเป็นส่วนประกอบในอาหารหรือขนมหวานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้อบแห้ง ผลไม้ฟรีซดราย ผลไม้บรรจุกระป๋อง น้ำผลไม้ แยมผลไม้ รวมถึงผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบของผลไม้ ทั้งในกลุ่มอาหารพร้อมบริโภค (Ready to eat) และอาหารพร้อมปรุง (Ready to Cook) ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นหลากรูปแบบ หลายเมนูในตลาดจีน
ข่าวนี้รวบรวมโดย :SHUNNING HUANG