ผ่าโครงสร้างการค้ากว่างซี – ไทย ไตรมาส 3/2568 โดดเด่นด้วยคู่ค้า ‘อันดับ 2’ ในจีนตะวันตก
เวลาที่โพสต์:11:12, 2-12-2025
แหล่งข่าว:thaibizchina.com
12022.jpg

สถานการณ์การค้าต่างประเทศของเขตปกครองตนเองกว่างซียังรักษาระดับการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะภาคการนำเข้าส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากที่ประสบภาวะชะลอตัว 6 ไตรมาสติดต่อกันนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 เป็นต้นมา

ภาพรวมการค้า สำนักงานศุลกากรหนานหนิง (กำกับดูแลเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง) ได้ประกาศตัวเลขการค้าต่างประเทศของเขตฯ กว่างซีจ้วงไตรมาส 3/2568 โดยระบุว่า เขตฯ กว่างซีจ้วงมีมูลค่าการค้าต่างประเทศรวม 586,240 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 (YoY) อันดับที่ 13 จากทั้งหมด 31 มณฑลในจีนแผ่นดินใหญ่ และอันดับ 2 จาก 12 มณฑลในภาคตะวันตกของจีน (รองจากมณฑลเสฉวน)

ในจำนวนข้างต้น เป็นมูลค่าการส่งออก 345,150 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 (YoY) อันดับที่ 14 ในจีนแผ่นดินใหญ่ และอันดับที่ 3 ในจีนตะวันตก (รองจากมณฑลเสฉวน และนครฉงชิ่ง) และมูลค่าการนำเข้า 241,090 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 (YoY) โดยกว่างซีเป็นฝ่ายเกินดุลการค้าต่างประเทศ 104,060 ล้านหยวน

โครงสร้างการค้าต่างประเทศของกว่างซี มีการค้าสากล (General Trade) เป็นรูปแบบการค้าหลัก มีมูลค่า 255,270 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 (YoY) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43.5 ของมูลค่าการค้ารวม ตามด้วยการค้าผ่านเขตสินค้าทัณฑ์บน มีมูลค่า 182,440 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7 (YoY) การค้าแปรรูปเพื่อการส่งออก (Processing Trade) มีมูลค่า 68,010 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.5 (YoY)

ขณะที่การค้ามูลค่าต่ำตามแนวชายแดน มีมูลค่ารวม 60,630 ล้านหยวน และการค้าผ่านจุดผ่อนปรนตลาดการค้าสำหรับชาวชายแดน มีมูลค่า 18,900 ล้านหยวน ในจำนวนข้างต้น เป็นการนำเข้าสินค้าผ่านจุดผ่อนปรนตลาดการค้าสำหรับชาวชายแดนเพื่อการแปรรูปในพื้นที่ คิดเป็นมูลค่า 10,460 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.7 (YoY)

สินค้าส่งออกสำคัญ เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Electromechanical) มีมูลค่าการส่งออก 209,380 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.5 (YoY) โดยเฉพาะแบตเตอรี่ลิเทียม (เพิ่มขึ้นร้อยละ 71.4) รถยนต์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7) โมดูลจอแอลซีดี (เพิ่มขึ้นร้อยละ 149.9) และกลุ่มสินค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้น มีมูลค่า 50,880 ล้านหยวน โดยเฉพาะเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม (เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7)

สินค้านำเข้าสำคัญ ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) ทั้งสินค้าที่ใช้เป็นวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง มีปริมาณการนำเข้ารวม 55.56 ล้านตัน มูลค่าการนำเข้ารวม 140,490 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 (YoY) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 58.3 ของมูลค่าการนำเข้ารวม โดยเฉพาะหัวแร่และสินแร่โลหะ มีมูลค่าการนำเข้า 93,090 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.9 (YoY) โดยส่วนใหญ่เป็นทองแดงและเหล็ก

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Electromechanical) มีมูลค่านำเข้า 22,210 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 (YoY)

คู่ค้าสำคัญ มี “อาเซียน” เป็นคู่ค้ารายใหญ่ติดต่อกันเป็นปีที่ 25 โดยสองฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวม 311,020 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 (YoY) ทั้งนี้ หากมองรายประเทศ/ดินแดน 10 อันดับ พบว่า การค้ากับเพื่อนบ้าน “เวียดนาม” มีสัดส่วนสูงสุดถึงร้อยละ 39.14 ของมูลค่าการค้ารวม ตามด้วยประเทศไทย ชิลี บราซิล อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เปรู สหรัฐอเมริกา ซาอุดิอาระเบีย และเม็กซิโก

มองลึกการค้ากับ “ประเทศไทย” มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี โดย “ประเทศไทย” ยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของกว่างซี (รองจากเวียดนาม) มีสัดส่วนร้อยละ 4.57 ของมูลค่าการค้ารวม

เขตฯ กว่างซีจ้วงกับประเทศไทย มีมูลค่าการค้ารวม 26,779 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.51 (YoY) (รองจากเวียดนาม) อยู่อันดับที่ 8 ในจีนแผ่นดินใหญ่ และอันดับที่ 2 ในจีนตะวันตก (รองจากมณฑลเสฉวน อันดับ 1 ในจีนตะวันตก และอันดับ 7 ในจีน) โดยประเทศไทยเสียดุลการค้าให้กว่างซี 13,128 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.10 (YoY)

ทั้งนี้ “ประเทศไทย” เป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของกว่างซี (รองจากเวียดนาม) การส่งออกไปไทยมีมูลค่า 19,953 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.35 (YoY) โดยสินค้าส่งออกสำคัญไปไทย (มูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านหยวน) ได้แก่ สินค้ามูลค่าต่ำที่ดำเนินพิธีการศุลกากรแบบเรียบง่าย (พิกัด 98040000) สมาร์ทโฟน จานบันทึก และแบตเตอรี่ลิเทียม

และ “ประเทศไทย” เป็นแหล่งนำเข้าสินค้าอันดับ 8 ของกว่างซี (รองจากเวียดนาม ชิลี บราซิล อินโดนีเซีย เปรู และออสเตรเลีย) การนำเข้าจากไทยมีมูลค่า 6,825 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.12 (YoY) โดยสินค้านำเข้าสำคัญจากไทย (มูลค่าเกิน 1,000 ล้านหยวน) ได้แก่ ทุเรียนสด และฮาร์ดดิกส์ไดร์ฟ (HDD ไม่รวมถึง Solid-state drive – SSD)

ข้อสังเกตเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างเขตฯ กว่างซีจ้วงกับประเทศไทย ไตรมาส 3/2568

(1) สถานการณ์การค้าฟื้นตัวดีขึ้น เป็นผลจากการนำเข้า-ส่งออกในสินค้าหลักมีทิศทางการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมการนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.12 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2567 ลดลงมากถึงร้อยละ 55.3) โดยเฉพาะการนำเข้า “ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ” จากประเทศไทยมีการฟื้นตัวดีขึ้น มีมูลค่านำเข้า 2,377 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 143.98 (YoY) คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 1,403 ล้านหยวน

ขณะที่ภาคการส่งออก พบว่า “สินค้ามูลค่าต่ำที่ดำเนินพิธีการศุลกากรแบบเรียบง่าย (พิกัด 98040000)” ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าส่งออกสูงถึง 8,002 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.1 (YoY) คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 1,554 ล้านหยวน / “สมาร์ทโฟน” มีมูลค่าส่งออกไปไทย 1,484 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 130.19 (YoY) และ “แบตเตอรี่ลิเทียม” มีมูลค่าส่งออกไปไทย 1,127 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 168.35 (YoY)

(2) อย่างไรก็ดี การนำเข้าสินค้าไทยยังขาดความหลากหลาย หลัก ๆ เป็นการนำเข้าทุเรียนสด (2,410 ล้านหยวน) และฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (2,377 ล้านหยวน) มีสัดส่วนรวมมากถึงร้อยละ 70.15 ของมูลค่ารวมการนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากประเทศไทย

(3) สถานการณ์ขาดดุลการค้าของประเทศไทย เนื่องจากธุรกิจส่งออก โดยอาศัย Cross-border e-Commerce (CBEC) เติบโตอย่างรวดเร็ว การส่งออกสินค้ามูลค่าต่ำที่ดำเนินพิธีการศุลกากรแบบเรียบง่าย (พิกัด 98040000) ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้า CBEC เข้าตีตลาดไทยจึงมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น ยังไม่นับรวมการส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงอย่างสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เครื่องจักรกล

ขณะที่สินค้าหลักที่กว่างซีนำเข้าจากไทยเป็นกลุ่มสินค้าเกษตรที่เป็นวัตถุดิบหรือสินค้าขั้นปฐมภูมิ รวมถึงสินค้าเกษตรที่ผ่านการแปรรูปขั้นต้น ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มไม่สูง เช่น ผลไม้สด มันสำปะหลังแห้ง สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง ส่งผลให้ประเทศไทยเสียเปรียบดุลการค้ากว่างซี

(4) แนวโน้มการนำเข้าสินค้าในพิกัด 08 (ผลไม้และผลไม้แห้งเปลือกแข็งที่บริโภคได้) จากประเทศไทยของเขตฯ กว่างซีจ้วง มีมูลค่ามากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศจีน (รองจากมณฑลยูนนาน มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลเจ้อเจียง) มูลค่ารวม 2,734 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 9.9 (YoY) คิดเป็นมูลค่าที่ลดลง 300 ล้านหยวน สวนทางกับสถานการณ์การนำเข้าสินค้าในพิกัด 08 จากประเทศไทยในภาพรวมของทั้งประเทศจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กล่าวคือ จีนนำเข้าสินค้าพิกัด 08 จากประเทศไทยในไตรมาส 1/2568 มีมูลค่า 3,939 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 8.48 (YoY) / ไตรมาส 2/2568 มีมูลค่า 25,493 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 5.19 (YoY) และไตรมาส 3/2568 มีมูลค่า 39,337 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.64 (YoY)

ขณะที่กว่างซีนำเข้าสินค้าพิกัด 08 จากประเทศไทยในไตรมาส 1/2568 มีมูลค่า 208 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 23.14 (YoY) / ไตรมาส 2/2568 มีมูลค่า 1,742 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 19.11 (YoY) และไตรมาส 3/2568 มีมูลค่า 2,734 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 9.9 (YoY)

สถานการณ์การค้าต่างประเทศของเขตปกครองตนเองกว่างซียังรักษาระดับการเติบโตได้ดี โดยเฉพาะภาคการนำเข้าส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากที่ประสบภาวะชะลอตัว 6 ไตรมาสติดต่อกันนับตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 เป็นต้นมา

ภาพรวมการค้า สำนักงานศุลกากรหนานหนิง (กำกับดูแลเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง) ได้ประกาศตัวเลขการค้าต่างประเทศของเขตฯ กว่างซีจ้วงไตรมาส 3/2568 โดยระบุว่า เขตฯ กว่างซีจ้วงมีมูลค่าการค้าต่างประเทศรวม 586,240 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.7 (YoY) อันดับที่ 13 จากทั้งหมด 31 มณฑลในจีนแผ่นดินใหญ่ และอันดับ 2 จาก 12 มณฑลในภาคตะวันตกของจีน (รองจากมณฑลเสฉวน)

ในจำนวนข้างต้น เป็นมูลค่าการส่งออก 345,150 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 (YoY) อันดับที่ 14 ในจีนแผ่นดินใหญ่ และอันดับที่ 3 ในจีนตะวันตก (รองจากมณฑลเสฉวน และนครฉงชิ่ง) และมูลค่าการนำเข้า 241,090 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 (YoY) โดยกว่างซีเป็นฝ่ายเกินดุลการค้าต่างประเทศ 104,060 ล้านหยวน

โครงสร้างการค้าต่างประเทศของกว่างซี มีการค้าสากล (General Trade) เป็นรูปแบบการค้าหลัก มีมูลค่า 255,270 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 (YoY) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 43.5 ของมูลค่าการค้ารวม ตามด้วยการค้าผ่านเขตสินค้าทัณฑ์บน มีมูลค่า 182,440 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7 (YoY) การค้าแปรรูปเพื่อการส่งออก (Processing Trade) มีมูลค่า 68,010 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 59.5 (YoY)

ขณะที่การค้ามูลค่าต่ำตามแนวชายแดน มีมูลค่ารวม 60,630 ล้านหยวน และการค้าผ่านจุดผ่อนปรนตลาดการค้าสำหรับชาวชายแดน มีมูลค่า 18,900 ล้านหยวน ในจำนวนข้างต้น เป็นการนำเข้าสินค้าผ่านจุดผ่อนปรนตลาดการค้าสำหรับชาวชายแดนเพื่อการแปรรูปในพื้นที่ คิดเป็นมูลค่า 10,460 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.7 (YoY)

สินค้าส่งออกสำคัญ เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Electromechanical) มีมูลค่าการส่งออก 209,380 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.5 (YoY) โดยเฉพาะแบตเตอรี่ลิเทียม (เพิ่มขึ้นร้อยละ 71.4) รถยนต์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7) โมดูลจอแอลซีดี (เพิ่มขึ้นร้อยละ 149.9) และกลุ่มสินค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้น มีมูลค่า 50,880 ล้านหยวน โดยเฉพาะเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม (เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.7)

สินค้านำเข้าสำคัญ ยังคงเป็นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) ทั้งสินค้าที่ใช้เป็นวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง มีปริมาณการนำเข้ารวม 55.56 ล้านตัน มูลค่าการนำเข้ารวม 140,490 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 (YoY) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 58.3 ของมูลค่าการนำเข้ารวม โดยเฉพาะหัวแร่และสินแร่โลหะ มีมูลค่าการนำเข้า 93,090 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.9 (YoY) โดยส่วนใหญ่เป็นทองแดงและเหล็ก

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Electromechanical) มีมูลค่านำเข้า 22,210 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.8 (YoY)

คู่ค้าสำคัญ มี “อาเซียน” เป็นคู่ค้ารายใหญ่ติดต่อกันเป็นปีที่ 25 โดยสองฝ่ายมีมูลค่าการค้ารวม 311,020 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.2 (YoY) ทั้งนี้ หากมองรายประเทศ/ดินแดน 10 อันดับ พบว่า การค้ากับเพื่อนบ้าน “เวียดนาม” มีสัดส่วนสูงสุดถึงร้อยละ 39.14 ของมูลค่าการค้ารวม ตามด้วยประเทศไทย ชิลี บราซิล อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เปรู สหรัฐอเมริกา ซาอุดิอาระเบีย และเม็กซิโก

มองลึกการค้ากับ “ประเทศไทย” มีแนวโน้มขยายตัวได้ดี โดย “ประเทศไทย” ยังคงเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของกว่างซี (รองจากเวียดนาม) มีสัดส่วนร้อยละ 4.57 ของมูลค่าการค้ารวม

เขตฯ กว่างซีจ้วงกับประเทศไทย มีมูลค่าการค้ารวม 26,779 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.51 (YoY) (รองจากเวียดนาม) อยู่อันดับที่ 8 ในจีนแผ่นดินใหญ่ และอันดับที่ 2 ในจีนตะวันตก (รองจากมณฑลเสฉวน อันดับ 1 ในจีนตะวันตก และอันดับ 7 ในจีน) โดยประเทศไทยเสียดุลการค้าให้กว่างซี 13,128 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.10 (YoY)

ทั้งนี้ “ประเทศไทย” เป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของกว่างซี (รองจากเวียดนาม) การส่งออกไปไทยมีมูลค่า 19,953 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.35 (YoY) โดยสินค้าส่งออกสำคัญไปไทย (มูลค่าเกินกว่า 1,000 ล้านหยวน) ได้แก่ สินค้ามูลค่าต่ำที่ดำเนินพิธีการศุลกากรแบบเรียบง่าย (พิกัด 98040000) สมาร์ทโฟน จานบันทึก และแบตเตอรี่ลิเทียม

และ “ประเทศไทย” เป็นแหล่งนำเข้าสินค้าอันดับ 8 ของกว่างซี (รองจากเวียดนาม ชิลี บราซิล อินโดนีเซีย เปรู และออสเตรเลีย) การนำเข้าจากไทยมีมูลค่า 6,825 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.12 (YoY) โดยสินค้านำเข้าสำคัญจากไทย (มูลค่าเกิน 1,000 ล้านหยวน) ได้แก่ ทุเรียนสด และฮาร์ดดิกส์ไดร์ฟ (HDD ไม่รวมถึง Solid-state drive – SSD)

ข้อสังเกตเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าระหว่างเขตฯ กว่างซีจ้วงกับประเทศไทย ไตรมาส 3/2568

(1) สถานการณ์การค้าฟื้นตัวดีขึ้น เป็นผลจากการนำเข้า-ส่งออกในสินค้าหลักมีทิศทางการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมการนำเข้าขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.12 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 3/2567 ลดลงมากถึงร้อยละ 55.3) โดยเฉพาะการนำเข้า “ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ” จากประเทศไทยมีการฟื้นตัวดีขึ้น มีมูลค่านำเข้า 2,377 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 143.98 (YoY) คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 1,403 ล้านหยวน

ขณะที่ภาคการส่งออก พบว่า “สินค้ามูลค่าต่ำที่ดำเนินพิธีการศุลกากรแบบเรียบง่าย (พิกัด 98040000)” ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าส่งออกสูงถึง 8,002 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.1 (YoY) คิดเป็นมูลค่าที่เพิ่มขึ้น 1,554 ล้านหยวน / “สมาร์ทโฟน” มีมูลค่าส่งออกไปไทย 1,484 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 130.19 (YoY) และ “แบตเตอรี่ลิเทียม” มีมูลค่าส่งออกไปไทย 1,127 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 168.35 (YoY)

(2) อย่างไรก็ดี การนำเข้าสินค้าไทยยังขาดความหลากหลาย หลัก ๆ เป็นการนำเข้าทุเรียนสด (2,410 ล้านหยวน) และฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ (2,377 ล้านหยวน) มีสัดส่วนรวมมากถึงร้อยละ 70.15 ของมูลค่ารวมการนำเข้าสินค้าทั้งหมดจากประเทศไทย

(3) สถานการณ์ขาดดุลการค้าของประเทศไทย เนื่องจากธุรกิจส่งออก โดยอาศัย Cross-border e-Commerce (CBEC) เติบโตอย่างรวดเร็ว การส่งออกสินค้ามูลค่าต่ำที่ดำเนินพิธีการศุลกากรแบบเรียบง่าย (พิกัด 98040000) ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้า CBEC เข้าตีตลาดไทยจึงมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น ยังไม่นับรวมการส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงอย่างสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เครื่องจักรกล

ขณะที่สินค้าหลักที่กว่างซีนำเข้าจากไทยเป็นกลุ่มสินค้าเกษตรที่เป็นวัตถุดิบหรือสินค้าขั้นปฐมภูมิ รวมถึงสินค้าเกษตรที่ผ่านการแปรรูปขั้นต้น ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มไม่สูง เช่น ผลไม้สด มันสำปะหลังแห้ง สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง ส่งผลให้ประเทศไทยเสียเปรียบดุลการค้ากว่างซี

(4) แนวโน้มการนำเข้าสินค้าในพิกัด 08 (ผลไม้และผลไม้แห้งเปลือกแข็งที่บริโภคได้) จากประเทศไทยของเขตฯ กว่างซีจ้วง มีมูลค่ามากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศจีน (รองจากมณฑลยูนนาน มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลเจ้อเจียง) มูลค่ารวม 2,734 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 9.9 (YoY) คิดเป็นมูลค่าที่ลดลง 300 ล้านหยวน สวนทางกับสถานการณ์การนำเข้าสินค้าในพิกัด 08 จากประเทศไทยในภาพรวมของทั้งประเทศจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กล่าวคือ จีนนำเข้าสินค้าพิกัด 08 จากประเทศไทยในไตรมาส 1/2568 มีมูลค่า 3,939 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 8.48 (YoY) / ไตรมาส 2/2568 มีมูลค่า 25,493 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 5.19 (YoY) และไตรมาส 3/2568 มีมูลค่า 39,337 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.64 (YoY)

ขณะที่กว่างซีนำเข้าสินค้าพิกัด 08 จากประเทศไทยในไตรมาส 1/2568 มีมูลค่า 208 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 23.14 (YoY) / ไตรมาส 2/2568 มีมูลค่า 1,742 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 19.11 (YoY) และไตรมาส 3/2568 มีมูลค่า 2,734 ล้านหยวน ลดลงร้อยละ 9.9 (YoY)

ข่าวนี้รวบรวมโดย :SHUNNING HUANG