เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลผลไม้ บรรยากาศบริเวณ “ด่านสากลทางบกโหย่วอี้กวาน” ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของประเทศจีน การจราจรคับคั่ง ปริมาณรถบรรทุกสินค้าเข้า-ออกเริ่มหนาแน่นอยู่บริเวณนอกด่าน โดยเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ปริมาณรถสินค้าเข้า-ออกที่ด่านโหย่
เวลาที่โพสต์:10:47, 3-06-2025
แหล่งข่าว:thaibizchina.com

เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลผลไม้ บรรยากาศบริเวณ “ด่านสากลทางบกโหย่วอี้กวาน” ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของประเทศจีน การจราจรคับคั่ง ปริมาณรถบรรทุกสินค้าเข้า-ออกเริ่มหนาแน่นอยู่บริเวณนอกด่าน โดยเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ปริมาณรถสินค้าเข้า-ออกที่ด่านโหย่วอี้กวานทำสถิติรายวันสูงสุดครั้งใหม่ที่ 2,072 คัน/ครั้ง

เพื่อรับมือกับช่วงที่มีปริมาณรถบรรทุกผ่านพิธีการศุลกากรขาเข้า-ขาออกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ศุลกากรด่านโหย่วอี้กวานได้ดำเนินมาตรการเพื่อบรรเทาความแออัดของรถบรรทุกในบริเวณด่าน อาทิ การประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า การเฝ้าสังเกตการณ์ทุกวัน การแจ้งเตือนล่วงหน้า การเตรียมพร้อมตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินในระดับ  ต่าง ๆ  และการบูรณาการความร่วมมือในทุกภาคส่วน

นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนอัตรากำลังบุคลากรให้เพียงพอในพื้นที่หน้างาน และขยายเวลาการดำเนินพิธีการทางศุลกากรตามสถานการณ์ และนำระบบอัจฉริยะมาช่วยในการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพและตรวจปล่อยสินค้านำเข้า-ส่งออกด้วยความรวดเร็ว อาทิ แพลตฟอร์มควบคุมตรวจสอบโลจิสติกส์อัจฉริยะ ระบบช่วยตรวจสอบอัจฉริยะ

สถิติของด่านศุลกากรโหย่วอี้กวาน พบว่า นับตั้งแต่ต้นปี ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2568 ช่องทางโหย่วอี้กวานของด่านโหย่วอี้กวาน (ไม่นับรวมช่องทางค้าชายแดนผู่จ้าย) มีปริมาณรถสินค้าผ่านเข้า-ออกสะสม 189,900 คัน/ครั้ง (เฉลี่ยวันละ 1,386 คัน/ครั้ง) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.57 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

บีไอซี เห็นว่า ในช่วงฤดูกาลที่มีผลไม้ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ผู้ส่งออกไทยที่นิยมใช้การส่งออกผลไม้ผ่านถนน R8 R9 และ R12 ควรติดตามและประเมินสถานการณ์ในภาพรวม ไม่ว่าจะเป็นสภาพการจราจร/ปริมาณรถสินค้าตลอดเส้นทาง สถานการณ์การผลิตผลไม้ของเวียดนาม (ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกับจีน และนิยมใช้การส่งออกทางถนนเช่นกัน) สถานการณ์การสุ่มตรวจสินค้าของด่าน (ทั้งการตรวจศัตรูพืช และสารโลหะหนักตกค้างอย่างสาร Basic Yellow 2 (BY2) และสารแคดเมียม) เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการวางแผนการขนส่งผลไม้ไทยไปจีน โดยเฉพาะอาจพิจารณาการเลือกใช้ด่านแห่งอื่นๆ ด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์การกระจุกตัวของรถสินค้า

ทั้งนี้ เขตฯ กว่างซีจ้วงยังมีด่านแห่งอื่นที่พร้อมรองรับการนำเข้าผลไม้จากประเทศไทย อาทิ

  • ด่านท่าเรือ : ด่านชินโจว ด่านฝางเฉิงก่าง

  • ด่านทางบก : ด่านรถไฟผิงเสียง ด่านตงซิง ด่านหลงปัง

  • ด่านทางอากาศ : ด่านสนามบินหนานหนิง ด่านสนามบินกุ้ยหลิน (สนามบินกุ้ยหลินได้รับอนุมัติ แต่ยังไม่ได้รับความนิยมในการใช้นำเข้าผลไม้)

คาดว่า สนามการค้าผลไม้สดในประเทศจีนจะมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียนสด เนื่องจากรัฐบาลจีนได้ทยอยเปิดตลาด “ทุเรียนสด” ให้ชาติสมาชิกอาเซียนเข้ามาเป็น ‘ผู้เล่น’ ในตลาดจีนเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม (27 ก.ค. 2565 ทุเรียนสด / 19 ส.ค. 2567 ทุเรียนแช่แข็ง) ฟิลิปปินส์ (4 ม.ค. 2566 ทุเรียนสด) มาเลเซีย (24 มิ.ย. 2567 ทุเรียนสด) และล่าสุด กัมพูชา (17 เม.ย. 2568) ยังไม่นับรวมอินโดนีเซีย และ สปป.ลาว ที่กำลังเร่งเจรจาให้ทุเรียนของตนเองสามารถส่งออกไปจีนได้

ดังนั้น ทุกภาคส่วนในประเทศไทยควรเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การแข่งขันและความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นจากการมี ‘คู่แข่ง’ ในตลาดจีนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะประเด็นความปลอดภัยของอาหาร (Food Safety) ในกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่จะต้องมีคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยสอดคล้องตามข้อกำหนดของทางการจีน

กล่าวคือ แหล่งกำเนิดที่จะต้องผ่านมาตรฐานการรับรองการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practice หรือ GAP) โรงงานแปรรูปต้องผ่านมาตรฐานการรับรองคุณภาพการผลิตของผู้ผลิต (Good Manufacturing Practice หรือ GMP) และต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยไร้สารตกค้าง เพื่อสร้างความมั่นใจและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของผลไม้ไทยในสายตาจีน

นอกจากการควบคุมคุณภาพของสินค้าแล้ว การพัฒนาสายพันธุ์ทุเรียนใหม่ และสร้างเรื่องเล่า (storytelling) ให้แก่ทุเรียนสายพันธุ์ใหม่ (และสายพันธุ์เดิมที่คนจีนยังไม่ค่อยรู้จัก) และประชาสัมพันธ์เพื่อตอกย้ำภาพจำ ‘ของแท้ต้องสินค้าไทย’ (Country of Origin Effects) ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย/แพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมมิ่งอีคอมเมิร์ซที่มีอิทธิพลในตลาดจีน อาทิ Douyin (抖音 หรือ Tiktok เวอร์ชั่นจีน) , Wechat (微信) , Rednote (小红书) , Weibo (微博) , Taobao (淘宝) , JD (京东) ก็เป็นอีกกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยสร้างการรับรู้ในหมู่ผู้บริโภคชาวจีน ทำให้ทุเรียนไทยยังคงครองใจผู้บริโภคชาวจีนได้อย่างต่อเนื่อง

ข่าวนี้รวบรวมโดย :SHUNNING HUANG