
เมื่อเร็วๆ นี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซินหัวว่า “ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน แต่ความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และการไปมาหาสู่กันอย่างเป็นมิตรระหว่างประชาชนสองประเทศยาวนานกว่า 50 ปี ประชาชนไทยและจีนมีสายเลือดเชื่อมโยงกัน มิตรภาพระหว่างไทยกับจีนมีมาช้านานและแน่นแฟ้น สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือต่อกัน ทั้งสองประเทศไปมาหาสู่ด้วยความจริงใจต่อกันมาโดยตลอด มิตรภาพระหว่างสองฝ่ายลึกซึ้งยิ่งขึ้น แม้เวลาผ่านไปนาน แต่ก็ยังแข็งแกร่งไม่เปลี่ยน”
เมื่อเร็วๆ นี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเยือนจีนอย่างเป็นทางการ นายอนุทินได้ติดตามคณะฯ เยือนจีนด้วย นายอนุทินกล่าวว่า การเยือนครั้งนี้นับเป็น “การเปิดหน้าใหม่แห่งประวัติศาสต์การไปมาระดับสูงระหว่างไทยกับจีน” ประมุขของสองประเทศได้พบปะกันอย่างเพื่อน จีนให้การต้อนรับยิ่งใหญ่อลังการ แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพลึกซึ้งระหว่างไทยกับจีน ซึ่งความเป็นมิตรเช่นนี้ “เป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับความสัมพันธ์สองประเทศ”
นายอนุทินกล่าวว่า ในระหว่างการเยือนครั้งนี้ ฝ่ายจีนได้แสดงความประสงค์จะขยายการนำเข้าผลิตภัณฑ์เกษตรคุณภาพสูงจากไทย ทั้งสองฝ่ายยังได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นอีกครั้งว่า ความสัมพันธ์ไทย-จีนเกื้อกูลประโยชน์แก่กัน และมีแนวทางเปิดกว้างสู่อนาคต
เมื่อกล่าวถึงความร่วมมือระหว่างสองประเทศ นายอนุทินกล่าวว่า ไทย-จีนประสบผลสำเร็จความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และเกี่ยวกับประชาชนมากมาย ฝ่ายไทยได้รับการสนับสนุนจากจีนในด้านเทคโนโลยีรถไฟความเร็วสูง ทั้งสองฝ่ายจะเสริมสร้างความร่วมมือในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการเชื่อมโยงกัน โดยเขากล่าวว่า ในอนาคต ทั้งสองฝ่ายสามารถที่จะแสวงหาความเป็นไปได้ของความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากขึ้น และหวังว่า จีนจะเพิ่มการลงทุนในไทยในสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น เทคโนโลยีดิจิทัลสําหรับการเตือนภัยและจัดการภัยพิบัติ การควบคุมและการเพิ่มประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ การศึกษาออนไลน์และปัญญาประดิษฐ์ เป็นต้น ความร่วมมือเหล่านี้จะสร้างความผาสุขให้กับประชาชนไทยมากขึ้น
ในด้านความร่วมมือส่วนภูมิภาค นายอนุทินกล่าวว่า ประเทศไทยตั้งอยู่บนภูมิศาสตร์ที่สามารถเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลและข่าวสารของภูมิภาค เป็นศูนย์กลางการหมุนเวียนสินค้าและฐานการผลิต สามารถที่จะช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างจีนกับอาเซียน
นายอนุทินประเมินค่าไว้สูงต่อข้อริเริ่มการพัฒนาทั่วโลก ข้อริเริ่มความมั่นคงทั่วโลก ข้อริเริ่มอารยธรรมสากล และข้อริเริ่มธรรมาภิบาลโลกที่เสนอโดยฝ่ายจีน เขากล่าวว่า ข้อริเริ่มดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิดของไทยอย่างมาก ไทยสนับสนุนและจะปฏิบัติข้อริเริ่มดังกล่าว โดยเห็นว่า ความสามัคคีและความร่วมมือมีความหมายสำคัญยิ่งต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
อนุทินกล่าวถึงความพยายามของไทยในการกำกับดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นการเฉพาะ โดยเขากล่าวว่า ประเทศไทยให้ความสําคัญกับการแก้ไขปัญหาแก๊งซ์คอลเซ็นเตอร์อย่างมาก และกําลังปราบปรามอาชญากรรมนี้อย่างเต็มที่ โดยเขากล่าวย้ำว่า ประเทศไทยจะไม่เป็นสถานที่ซ่อนตัวของกลุ่มอาชญากรใด ๆ และจะ "ใช้ทุกวิถีทางในการปราบปรามอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย และจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิด"
ข่าวนี้รวบรวมโดย :SHUNNING HUANG