เหอเฝย, 7 มิ.ย. (ซินหัว) — โภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา และนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่าความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าเสรีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ได้เป็นเพียงกรอบดำเนินงานทางการค้า แต่ยังเป็นสัญลักษณ์สำคัญของความเชื่อมั่นร่วมกันในภูมิภาคนิยมแบบเปิดกว้าง รวมถึงสามารถเป็นเวทีสร้างความไว้วางใจ ส่งเสริมความร่วมมือ และถักทอมิตรภาพ ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เผชิญความผันผวนในปัจจุบัน
ไทยนั้นได้รับเกียรติเป็นประเทศเกียรติยศของการประชุมความร่วมมือของรัฐบาลท้องถิ่นและกลุ่มเมืองมิตรภาพตามความตกลงฯ (หวงซาน) ประจำปี 2025 ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 4-6 มิ.ย. ในเมืองหวงซาน มณฑลอันฮุยทางตะวันออกของจีน โดยโภคินกล่าวว่าความร่วมมือระหว่างไทยกับจีนภายใต้กรอบความตกลงฯ ได้บรรลุผลลัพธ์อันจับต้องได้ โครงการทางรถไฟจีน-ไทยปูทางสู่การขนส่งผู้คน สินค้า และแนวคิดอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ายิ่งขึ้น
โภคินกล่าวว่าไทยและจีนกำลังพัฒนาความร่วมมือเชิงลึกด้านเทคโนโลยีโครงข่ายไฟฟ้าและระบบพลังงานแสงอาทิตย์อัจฉริยะ ทั้งยังจะร่วมมือกันด้านพลังงานสีเขียว การเกษตรแบบตรงจุด และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในอนาคต ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยของทั้งสองประเทศได้กระชับความร่วมมือผ่านโครงการหลักสูตรร่วม การแลกเปลี่ยนทางวิชาการ และการเรียนการสอนภาษา ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเป็นประโยชน์ทั้งระดับรัฐบาล ผู้ประกอบการ และประชาชน
สำหรับความสำคัญของความตกลงฯ ในบริบทสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่ไม่เคยพานพบมาก่อนนั้น โภคินกล่าวว่าความตกลงฯ ส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้า การลดภาษีศุลกากร และกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า เพื่อทำให้การค้าระหว่างประเทศสมาชิกมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและเร่งการบูรณาการห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงกระตุ้นความเชื่อมั่นของนักลงทุน
โภคินเสริมว่าปี 2025 ตรงกับวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน และปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีน ซึ่งสมาคมฯ จะจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และเฉลิมฉลอง เช่น เทศกาลโคมไฟอวี้หยวนในไทยร่วมกับบริษัทจีน และงานคอนเสิร์ตจีน-ไทย โดยมีเป้าหมายเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนทุกระดับของสองประเทศ
ข่าวนี้รวบรวมโดย :SHUNNING HUANG